อัปเดต! เงินสมทบประกันสังคม 2569 (https://onlinecartoonist.com/2381/) สูตรใหม่ จ่ายเพิ่ม ได้สิทธิประโยชน์มากขึ้น
(https://i3.wp.com/s.isanook.com/mn/0/ud/188/942256/sso(6).jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp&w=1024&resize=1024,0&ssl=1)
เงินสมทบประกันสังคม 2569: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้ประกันตนต้องรู้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตรียมปรับสูตรการคำนวณเงินสมทบใหม่สำหรับผู้ประกันตน เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป โดยยึดหลัก
"จ่ายตามจริง ได้ประโยชน์ตามจริง" ซึ่งจะมีการกำหนดเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณเงินสมทบแบบขั้นบันไดใน 3 ระยะ เพื่อให้ผู้ที่มีรายได้สูงขึ้นจ่ายเงินสมทบมากขึ้น แต่ก็ได้รับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
รายละเอียดการปรับสูตรใหม่แบบ 3 ระยะ[ul]
- ระยะที่ 1 (ปี 2569 - 2571):
[ul]
- เพดานค่าจ้างสูงสุด: 17,500 บาท
- เงินสมทบสูงสุดที่ต้องจ่าย: 875 บาท/เดือน
- สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น เช่น เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วยสูงสุด 8,750 บาท/เดือน และเงินบำนาญชราภาพสำหรับผู้ส่งครบ 15 ปี จะได้รับเพิ่มเป็น 3,500 บาท/เดือน
[/ul]
- ระยะที่ 2 (ปี 2572 - 2574):
[ul]
- เพดานค่าจ้างสูงสุด: 20,000 บาท
- เงินสมทบสูงสุดที่ต้องจ่าย: 1,000 บาท/เดือน
- สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น เช่น เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วยสูงสุด 10,000 บาท/เดือน และเงินบำนาญสำหรับผู้ส่งครบ 15 ปี จะได้รับเพิ่มเป็น 4,000 บาท/เดือน
[/ul]
- ระยะที่ 3 (ปี 2575 เป็นต้นไป):
[ul]
- เพดานค่าจ้างสูงสุด: 23,000 บาท
- เงินสมทบสูงสุดที่ต้องจ่าย: 1,150 บาท/เดือน
- สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น เช่น เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วยสูงสุด 11,500 บาท/เดือน และเงินบำนาญสำหรับผู้ส่งครบ 15 ปี จะได้รับเพิ่มเป็น 4,600 บาท/เดือน
[/ul]
[/ul]
การปรับสูตรใหม่นี้จะส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกันตนที่มีรายได้สูงกว่าเพดานเดิมที่ 15,000 บาท ทำให้ต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้น แต่ก็ได้รับผลตอบแทนในรูปของสิทธิประโยชน์ที่สูงขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ รวมถึงเงินบำนาญในระยะยาว
บทสรุปเงินสมทบประกันสังคม 2569 การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับระบบประกันสังคมในระยะยาว
ผู้ประกันตนที่มีรายได้สูงจะจ่ายสมทบเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกัน
สิทธิประโยชน์และเงินบำนาญที่ได้รับก็จะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน ในขณะที่ผู้มีรายได้น้อยยังคงจ่ายสมทบตามฐานรายได้เดิม ทำให้ระบบมีความเป็นธรรมและสามารถดูแลผู้ประกันตนได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นในอนาคต