• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

สกรีน DFT คืออะไร พร้อมคำตอบจาก ร้านโฮชิ สกรีนเสื้อคุณภาพ

Started by Joe524, Aug 11, 2025, 11:06 PM

Previous topic - Next topic

Joe524

เวลาที่มีคนถามผมว่า "สกรีน DFT คืออะไร" ผมมักอธิบายให้เข้าใจง่ายว่า มันคือเทคนิคพิมพ์ลวดลายลงบนฟิล์มแล้วนำไปรีดลงบนผ้า ซึ่งคล้ายกับ DTF แต่ก็ไม่เหมือนกันทั้งหมด และนี่แหละที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากสงสัย




ถ้าได้ยินทั้ง DTF และ DFT หลายคนจะคิดว่ามันคืออย่างเดียวกัน มีการเรียกสลับกันบ่อย แต่หากแยกตามความหมาย DTF คือ Direct to Film ส่วน DFT หมายถึง Direct Film Transfer ในมุมมองบางคน บางคนหมายถึงการรีดฟิล์มติดผ้าโดยตรง ซึ่งไม่เหมือนการพิมพ์ตรงลงผ้าแบบ DTG

เอาแบบเข้าใจง่าย ๆ DTF กับ DFT ในประเทศไทย ถูกใช้ปนกัน เนื่องจากมีขั้นตอนใกล้เคียงกัน ทำโดยพิมพ์ลงฟิล์มใส โรยกาวผง อบให้กาวติดหมึก แล้วนำไปรีดบนวัสดุ จะเป็นเสื้อ ผ้า กระเป๋า หรือวัสดุที่ทนความร้อนก็ได้

แต่ละร้านอาจปรับส่วนผสมหมึก เปลี่ยนเกรดฟิล์ม หรือใช้วิธีอบกาวต่างกัน ซึ่งทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน นี่คือที่มาของการใช้คำว่า "DFT" แยกสาย เพื่อให้ลูกค้าแยกออกว่าเป็นงานฟิล์มพร้อมรีด




ถ้ามีคนมาถามตรง ๆ ว่า "สกรีน DFT ดีไหม" ต้องบอกว่าข้อดีมันเยอะมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับแหล่งผลิตและร้านที่ทำ และวัตถุดิบที่ใช้เป็นเกรดไหน ถ้าทำกับร้านที่ใช้หมึกดี ฟิล์มดี กาวดี ผลงานจะมีความทนทานสูง ลวดลายคมชัด สีสดเหมือนต้นฉบับ แม้ซักบ่อยก็ยังทน

แต่ถ้าไปเจอร้านที่ใช้หมึกถูก กาวถูก ฟิล์มถูก ความทนจะน้อยลงมาก ซักไม่กี่รอบก็เริ่มลอก เริ่มซีด ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากตัวเทคนิค แต่เกิดจากวัสดุและขั้นตอนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน

ข้อดีอีกอย่างของ DFT คือ พิมพ์ได้บนทุกเฉดสีของผ้า ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาว ผ้าดำ หรือผ้าสีอื่น ๆ เพราะหมึกมีการพิมพ์รองพื้นสีขาว เมื่อรีดแล้วก็ได้สีสดเหมือนพิมพ์ลงกระดาษ

ที่ไม่เหมือนงานซิลค์สกรีนแบบเก่า เพราะ DFT ใช้เวลาน้อยกว่า ไม่ต้องเสียเวลาทำบล็อก ไม่ต้องไล่ผสมสีชั้นต่อชั้น เพียงมีไฟล์งานก็สามารถพิมพ์ได้ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ฟิล์มรีดลงผ้า

ทีนี้มาถึงเรื่อง DTF กับ DFT ต่างกันยังไง หลายคนก็ยังสับสน เดี๋ยวผมจะอธิบายแบบง่าย ๆ เปรียบว่า DTF เป็นชื่อเทคนิคสากล ขณะที่ DFT ในบ้านเรา บางร้านใช้เรียกสินค้าฟิล์มพร้อมรีด เพื่อเน้นการตลาดให้ลูกค้ารู้ว่าพร้อมใช้

อีกมุมหนึ่ง DFT หมายถึงฟิล์มที่พิมพ์เสร็จ โรยกาว อบแล้ว พร้อมให้ลูกค้ารีด ขณะที่ DTF บางครั้งรวมถึงขั้นตอนการพิมพ์ ทั้งแบบยังไม่โรยกาวและโรยแล้วก็ใช้คำว่า DTF ได้ นี่คือสาเหตุที่บางที DTF และ DFT ใช้แทนกันได้ บางครั้งก็ถูกแยกให้คนเข้าใจง่ายขึ้น

อีกจุดเด่นของ DFT/DTF คือ มันช่วยให้ร้านเล็ก ๆ ก็สามารถรับงานพิมพ์ลายเสื้อได้ ไม่จำเป็นต้องลงทุนเครื่องแพง ๆ อย่าง DTG หรือเครื่องสกรีนขนาดใหญ่ แค่มีเตารีดร้อนหรือฮีทเพรสก็สามารถทำงานได้แล้ว ลูกค้าบางคนชอบเพราะสั่งลายเดียวก็ได้ ไม่ต้องทำขั้นต่ำเยอะ ๆ แบบสกรีนบล็อก

ถ้ามองจากมุมของคนในวงการ คุณภาพของ DFT และ DTF ขึ้นอยู่กับ 3 อย่างหลัก ๆ ได้แก่ หมึก กาว และฟิล์ม หมึกควรเป็นพิกเมนต์เกรดดีเพื่อการพิมพ์ฟิล์ม สีต้องชัดและไม่ซีดเร็ว กาวต้องมีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง ฟิล์มต้องหนาและใสในระดับที่เหมาะสม ไม่เปราะหรือแตกหักง่าย และไม่ทำให้หมึกซึมกระจาย นี่คือสิ่งที่ร้านที่ใส่ใจคุณภาพจะเลือกใช้

ถ้าถามว่า "สกรีน DFT ดีไหม" ผมบอกเลยว่าดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแฟชั่น งานของที่ระลึก หรือโปรโมตกิจกรรม เพราะมันทำให้ลายเสื้อดูเหมือนผลิตจากโรงงานใหญ่ และทำได้ในเวลาสั้น ๆ ต้นทุนต่อชิ้นถูกกว่าสกรีนหลายสีแบบเดิม แต่อย่างไรก็ตามมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น บางผ้าทนความร้อนไม่ได้ก็ใช้วิธีนี้ไม่ได้ หรือถ้ารีดไม่ถูกวิธี เช่น อุณหภูมิไม่ถึง เวลากดไม่พอ ลายก็อาจจะติดไม่แน่น

ถ้าพูดถึงร้านที่ทำ DFT ดี ๆ ในกรุงเทพฯ ผมก็ต้องพูดถึง "ร้านสกรีนโฮชิ" เพราะร้านนี้รับพิมพ์ฟิล์ม DFT ให้ลูกค้าเอาไปรีดเอง หรือจะให้ร้านช่วยรีดติดเสื้อก็มีบริการ หมึกและอุปกรณ์ที่ใช้ก็คุณภาพสูง ไม่ใช้ของราคาถูกเพื่อลดต้นทุนเหมือนบางร้าน อีกอย่างคือร้านนี้อยู่ย่านดินแดง ห้วยขวาง เดินทางง่าย ใครอยู่กรุงเทพก็สามารถไปรับงานเองได้ หรือเลือกใช้บริการส่งด่วนทั่วประเทศก็ได้



ผมเคยเห็นงานที่ร้านโฮชิทำ คือ สีคมกริบ ขอบเส้นเนียนเป๊ะ ไม่มีหมึกไหลเยิ้ม พอจับผิวงานแล้วมันนุ่มมือ ไม่กระด้าง ซึ่งตรงนี้แหละคือไฮไลต์ของ DFT ที่ทำแบบมืออาชีพ เพราะมันทำให้เสื้อใส่สบายไม่แข็ง ไม่เหมือนบางเทคนิคที่ทำให้ผ้าหยาบ และที่สำคัญคือลูกค้าที่สั่งงานจากร้านนี้ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ซักแล้วไม่ลอกง่าย ผมว่าเพราะเขาเลือกใช้ผงกาวเกรดพรีเมี่ยมกับหมึกแท้ ๆ ที่มีคุณภาพจริง ๆ

อีกอย่างที่ผมชอบคือ ร้านโฮชิเขาไม่บังคับขั้นต่ำ คือสั่งแค่ น้อยแค่ไหนก็ได้ หรือจะสั่งเป็น ร้อยเมตร ก็ได้ ถ้าลูกค้าร้อนงานก็มีคิวด่วนรองรับ ซึ่งสำหรับคนทำแบรนด์เสื้อผ้าหรือแบรนด์เล็ก ๆนี่คือสิ่งที่ช่วยได้เยอะ เพราะบางทีเรามีออเดอร์ไม่เยอะ แต่อยากได้งานคุณภาพสูง ก็ไม่ต้องไปลงทุนเยอะ

พูดตรง ๆ เลยนะว่า ในวงการนี้ ร้านที่ทำ DFT มาตรฐานสูงจริง ๆมีไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่จะเน้นทำราคาถูก ใช้ของเกรดต่ำ แต่ผลลัพธ์คืองานออกมาไม่ทน พอลูกค้าเอาไปใช้แล้วไม่พอใจ กลายเป็นชื่อเสียงเสีย แต่ร้านสกรีนโฮชิเขายอมลงทุนในวัตถุดิบดี ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้งานที่คุ้มค่า ซึ่งผมมองว่านี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เขามีฐานลูกค้าเหนียวแน่น



สรุปแบบภาษาบ้าน ๆเลยนะ ถ้าคุณกำลังหาข้อมูลว่า "สกรีน DFT คืออะไร" ก็ให้คิดง่าย ๆ ว่ามันคือพิมพ์ฟิล์มรีดติดเสื้อได้ทุกสี เกือบทุกชนิดผ้า เหมาะกับงานแฟชั่น ของชำร่วย หรือแม้แต่งานเสื้อองค์กร ถ้าถามว่า "DFT คุ้มไหม" ผมตอบได้เลยว่าดีมากถ้าร้านเลือกใช้วัสดุคุณภาพ และถ้าคุณยังงงว่า "DFT กับ DTF คืออะไรต่างกัน" ก็ให้จำว่า DTF คือชื่อเทคนิคมาตรฐาน ส่วน DFT ในไทยมักหมายถึงฟิล์มพร้อมรีดที่พิมพ์และอบกาวมาแล้ว พร้อมรีดติดผ้าได้เลย และถ้าจะเลือกทำจริง ๆ ผมก็แนะนำ "HOSHI Kaizen" เพราะเขาทำงานคุณภาพ สีเด่น ทน ทันกำหนด และบริการดูแลดีมาก


ติดต่อร้านเรา HOSHI KAIZEN
เบอร์โทร  098‑384‑5455
(ช่วงเวลาทำการ : 09:00 – 23:00 น. ทุกวัน)
LINE Official: @ho‑shi
เว็บไซต์ : www.ho-shi.com
อีเมล: [email protected]

Shopd2


fairya


Fern751

DFT และ DTF ต่างกันแค่ไหน หาคำตอบกับ สกรีนโฮชิ

hs8jai

DFT และ DTF ต่างกันแค่ไหน หาคำตอบกับ ร้านโฮชิ

Shopd2

ต่างกันยังไง DTF กับ DFT หาคำตอบกับ สกรีนโฮชิ

fairya


Jenny937


Chanapot